....ศิลปะการแกะสลักผักและผลไม้....
งานศิลปะดั้งเดิมของไทยนั้นมีอยู่มากมายหลายอย่างหลายแขนง การแกะสลักก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ถือเป็นมรดกมีค่าที่สืบทอดกันมาช้านาน เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด สมาธิ ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอียดอ่อนมาก การแกะสลักผักและผลไม้ เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ประจำของชาติไทยเลยทีเดียว ซึ่งไม่มีชาติใดสามารถเทียบเทียมได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในปัจจุบันนี้คงจะเป็นเรื่องของการอนุรักษ์ ศิลปะแขนงนี้ที่มีแนวโน้มจะสูญหายไปและลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
การแกะสลักเป็นมรดกไทยที่มีคุณค่ามากๆ แต่ผู้ที่ดำรงรักษาไว้จะดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากเพราะในชีวิตประจำวันของคนทั่วๆไปต้องอาศัยปัจจัย คือ เงิน เพื่อการยังชีพ การแกะสลักต้องใช้เวลาในการทำเพื่อให้สวยงามนานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแกะสลักมีอายุการคงทนน้อย เช่นผัก ผลไม้จึงเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ
ผักที่นิยมนำมาแกะสลัก ได้แก่ ฟักทองฟักเขียว แครอท บีทรูท กะหล่ำปลี แตงกวา มะเขือ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เผือก กระเจี๊ยบ มะระขี้นก และน้ำเต้า คุณสมบัติของผักที่จะนำมาแกะสลักควรเป็นผักสดผิวเรียบไม่มีรอยช้ำจะทำให้งานแกะสลักสวยงามและอยู่ทน
ผลไม้ที่นิยมนำมาแกะสลักได้แก่ แตงโมง มะละกอ แคนตาลูป มะม่วง ชมพู่ ฝรั่ง สับปะรด ละมุด ส้มโอ และพุทรา คุณสมบัติของผลไม้ที่จะนำมาแกะสลักควรเป็นผลไม้ที่สดผิวเรียบ ผลไม้บางชนิดเช่น มะละกอ มะม่วง หรือแคนตาลูป ควรเลือกลูกที่เกือบจะสุกหรือ ห่าม เพราะเนื้อยังค่อนข้างแข็งแต่มีสีออกส้มหรือเหลืองเรือๆ เมื่อแกะสลักเสร็จแล้วงานจะ ออกมาสวยงาม
สำหรับวิธีการเก็บรักษางานแกะสลักผักและผลไม้ เมื่อแกะเสร็จแล้วควรใช้กระบอกฉีดน้ำฉีดให้ทั่วชิ้นงานและใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ คลุมไว้และควรเก็บไว้ในที่มีอากาศเย็นหรือในห้องปรับอากาศ ถ้าจะเก็บงานแกะสลักไว้ใช้ในงานต่อไป ควรใช้กระบอกฉีดน้ำฉีดให้ทั่วชิ้นงานใส่ถุงพลาสติกเป่าลมให้ถุงพองปิดปากถุงให้แน่นไม่ให้อากาศเข้าออกได้ และนำไปแช่ตู้เย็นชั้นล่างสุดหรือเก็บในห้องปรับอากาศ
__________________________________________________________________________
ศิลปะการแกะสลักผลไม้ by อารีรัตน์ เกษแป้น is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น